เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าฟันคลอน ไม่มั่นคง หรือฟันโยก จะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาของโรคเหงือกและฟัน ซึ่งหากปล่อยเอาไว้ ไม่รีบรักษา ก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังที่อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียฟันตามมาเรื่อย ๆ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวนี้ขึ้นมาจะต้องรู้ว่าควรทำอย่างไร รวมถึงต้องเรียนรู้วิธีที่จะไม่ทำให้เกิดฟันคลอนหรือฟันโยกดังกล่าวขึ้นมา โดยการป้องกันที่สาเหตุเป็นหลัก
ฟันโยก มีสาเหตุมาจากอะไร
สาเหตุของฟันโยกนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประการ ดังต่อไปนี้
1.ปัญหาเหงือกอักเสบ
เหงือกอักเสบเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดโรคทางทันตกรรมตามมาหลายอย่าง รวมถึงการเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฟันโยก เพราะเมื่อเหงือกอักเสบจะทำให้เอ็นยึดฟันและกระดูกรอบ ๆ ฟันอ่อนแอลง ฟันจึงเกิดอาการโยกคลอน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเหงืออักเสบนี้มาจากการที่มีคราบพลักของแบคทีเรียสะสมบริเวณขอบเหงือกและฟัน จนกลายเป็นหินปูนที่ทำให้เหงือกอักเสบและเกิดปัญหาทางทันตกรรมขึ้นมาได้
2.กระดูกพรุน
เมื่ออายุมากขึ้น มวลกระดูกเริ่มมีความหนาแน่นน้อยลง รวมถึงฟันที่เป็นส่วนหนึ่งของกระดูกมีการกร่อนตัวลงด้วย ทำให้เกิดปัญหาฟันคลอนและโยกได้ โดยมีการศึกษาพบว่าคนที่เป็นกระดูกพรุน มีโอกาสที่ฟันจะหลุดได้ง่ายกว่าคนที่มีมวลกระดูกปกติได้มากถึง 3 เท่าเลยทีเดียว
3.ฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์
ปริมาณเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นมากในช่วงตั้งครรภ์ จึงทำให้เอ็นยึดฟันและกระดูกที่อยู่รอบ ๆ อ่อนแอลง ฟันจึงมีอาการโยกคลอนได้ง่าย แต่ภาวะเหล่านี้จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
4.เกิดแรงกระแทกหรืออาการบาดเจ็บ
เกิดจากการเคี้ยวของแข็ง, น้ำแข็ง หรือการถูกกระแทก ที่ทำให้เกิดความเสียหายของกระดูกกรอบฟัน รวมถึงคนที่นอนกัดฟันหรือเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดแรงกระแทกต่าง ๆ
เมื่อเกิดปัญหาฟันโยกต้องทำอย่างไร
เมื่อเกิดภาวะฟันโยกขึ้นมา ควรไปปรึกษากับทันตแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาสาเหตุดูว่าอะไรที่ทำให้เกิดฟันโยก จะได้ทำการรักษาหรือป้องกันให้ถูกวิธี ซึ่งการรีบไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไขเร็วขึ้น ไม่ต้องลงท้ายด้วยการสูญเสียฟัน แต่หากฟันมีปัญหามากและแพทย์พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถทำการรักษาฟันซี่นั้น ๆ ได้ ก็จำเป็นต้องทำการถอนออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือลุกลามไปยังฟันซี่อื่น
วิธีการรักษาฟันโยก
การรักษาฟันโยกนั้น จะทำการรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว โดยสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- ฟันที่มีอาการโยกคลอนจากสาเหตุของโรคเหงือก ต้องทำการรักษาด้วยการรับประทานยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย พร้อมทั้งทำการขูดหินปูน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บริเวณฟันออก
- คนที่มีปัญหาฟันโยกจากการนอนกัดฟัน แพทย์อาจแนะนำให้ใส่ยางครอบฟันเวลานอน เพื่อลดแรงกดที่เกิดต่อผิวฟัน
- ฟันที่โยกแต่ยังไม่หลุดออกมา แพทย์อาจทำการใส่เฝือกฟันเพื่อยึดฟันให้ติดกับซี่ข้าง ๆ ไม่ให้ฟันที่มีอาการโยกคลอนนั้นหลุดออกมา
- หากมีอาการฟันโยกรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาถอนออกแล้วใส่รากฟันเทียมเข้าไปแทน
ไม่อยากมีปัญหาฟันโยก ต้องทำอย่างไร
- แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธี รวมถึงใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดเศษสกปรกที่ตกค้างตามซอกฟันให้ออกไปให้หมด
- เลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ พร้อมทั้งเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม ไม่บาดเหงือก และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก ๆ 3 เดือน
- บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียและอาจเลือกใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของสารบำรุงเหงือก เพื่อดูแลเหงือกและฟันให้แข็งแรงไปด้วยกัน
- ขูดหินปูนเป็นประจำทุกปี พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟันอย่างสม่ำเสมอ
- หากเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องนอนกัดฟัน ให้ใส่ยางครอบฟันเวลานอนเป็นประจำ เพื่อลดการกระแทกหรือลดแรงอัดต่อฟันที่อาจเป็นสาเหตุทำให้ฟันเกิดอาการโยกคลอนได้
ปัญหาฟันโยกนั้นเป็นปัญหาทางทันตกรรมที่พบได้บ่อย แต่ก็เป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบให้กับการดำเนินชีวิตอยู่ไม่น้อย ดังนั้นจึงจะเป็นการดีกว่าที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ ด้วยการดูแลสุขภาพช่องปากและเหงือกให้ดีอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้เกิดปัญหาเรื้อรังจนสายเกินแก้